[ข่าว 19/9/19] เอ็นวีเค อินเตอร์ ร่วมกับ Megvii พัฒนาระบบ AI จดจำใบหน้าในกล้องวงจรปิด

          จากบทความคราวที่แล้ว เราได้กล่าวถึงเรื่อง "ชีวิตยุคใหม่ ภายใต้กล้องวงจรปิด" ก็ได้ข่าวประกาศออกมาอีกว่า บริษัท เอ็นวีเค อินเตอร์ จำกัด ได้ร่วมลงนามในการเป็นตัวแทนจำหน่ายและร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท Megvii ในการพัฒนา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์การจดจำใบหน้า หรือ Face Recognition and Detection AI เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562

          Mr. David Wei ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศ ของ บริษัท Megvii กล่าวแนะนำว่า บริษัท Megvii ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 โดย Mr. Qi YIN ซีอีโอที่ปัจจุบันมีอายุเพียง 31 ปี บริษัทได้ดำเนินการและเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทางด้านการจดจำใบหน้า โดยเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของแอพพลิเคชั่นทางด้านถ่ายรูปและวิดีโอของโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดังของประเทศจีนเกือบทั้งสิ้น

          อีกทั้งบริษัทได้พัฒนาอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ Platform KOALA สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปสำหรับระบบ Authentication เหมาะสำหรับโซลูชั่น Time Attendance และ Access Control และ Platform Insights, Video Structuring Platform, Big Data Platform สำหรับการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ Public Securtiy ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มตลาดราชการและหน่วยงานความมั่นคงหรือแม้แต่สนามบิน สถานีขนส่งสาธารณะ โดยมูลค่าของบริษัทมีมูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงภายในปีนี้ โดยบริษัทฯ ถือได้ว่าเป็นบริษัททางด้าน AI แห่งแรกของโลกที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

          คุณฤทธิไกร ขัณฑวีระมงคล กรรมการผู้จัดการ จาก บริษัท เอ็นวีเค อินเตอร์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า บริษัทเอ็นวีเค อินเตอร์ จำกัด ในฐานะที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Solutions ระบบเครือข่ายและรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอุปกรณ์กล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบ AI Face Recognition "KOALA" Platform ที่จะมาทดแทนระบบการยืนยันตัวตนแบบเดิม อาทิ การใช้บัตรพนักงานหรือเครื่องอ่านลายนิ้วมือที่มีปัญหาเรื่องความล่าช้าหรือการมีช่องโหว่ในการยืมบัตรในการลงทะเบียนแทนกัน หรือการนำเทคโนโลยี INSIGHTS, Video Structuring, Big DATA Platform มาเชื่อมต่อกับระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (City Surveillance) ที่มีการติดตั้งกันอยู่มากมายกันอยู่แล้วทั่วโลก

          ซึ่งระบบ AI ที่ไปเชื่อมกับระบบกล้องนี้ไม่ได้เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน แต่ระบบนี้จะสามารถช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้มีความแม่นยำและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดของ Face Recognition ในประเทศไทยและตลาด CLMV อาจมีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทในภายในสองสามปีนี้

          บริษัทจึงได้เซ็นสัญญากับบริษัท Megvii ในการร่วมพัฒนา และ Train Algorithm ให้เหมาะสมกับการใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมในประเทศไทย รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายและช่วยทำตลาดในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) โดยบริษัทเองเน้นการทำตลาดผ่านตัวแทนการขาย Reseller, System Integrator, Developer หรือแม้แต่ Software Technology Partners เท่านั้น